[ad_1]
ตลกและพิธีกรชื่อดัง “โก๊ะตี๋ อารมบอย” ควงเจ้าสาว “กวาง สุภัค” ในที่สุดก็มีวันนี้ วันวิวาห์ที่รอมานาน ลั่นไม่มีคำสัญญาให้กัน เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด 10 ปีที่ผ่านมาจับฝือเคียงข้าง ฝ่าอุปสรรค
“โก๊ะตี๋” คุกเข่าขอ “น้องกวาง” แต่งงาน หลังคบหาดูใจ 10 ปี
“โก๊ะตี๋” ยกขันหมาก แต่งงาน “กวาง สุภัค” เริ่มต้นชีวิตคู่
หลังจากคุกเข่าแต่งงานและแพลนวันวิวาห์ไว้แล้ว แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเพราะสถาการณ์โควิด แต่ล่าสุด “โก๊ะตี๋-เจริญพร อ่อนละม้าย” หรือ “โก๊ะตี๋ อารามบอย” ศิลปินตลก-นักแสดงชื่อดัง ถือฤกษ์ดี 17 ธันวาคม 2566 จูงมือแฟนสาวนอกวงการอายุห่าง 10 ปี “กวาง-สุภัค จรุตานันท์” เข้าพิธีแต่งงานชื่นมื่นแล้ว
โดยทั้งคู่ได้ควงกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชน และเล่าถึงความรักกว่า 10 ปีที่จับมือเคียงข้างกันมา จนมีวันนี้ที่รอคอย
ความรู้สึกวันนี้ตื่นเต้นมากไหม?
โก๊ะตี๋ : “ผมว่าเจ้าสาวตื่นเต้นกว่าผม ถ้าถามผมก็ตื่นเต้นแหละเพราะคนเราไม่เคยใช้ชีวิตคู่ แล้วอย่างที่บอกว่าก็รอมานานแล้ว จะได้ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามแล้วว่าจะแต่งเมื่อไหร่ (หัวเราะ) ตอนนี้แต่งแล้วนะครับ มีเมียเป็นของตัวเองแล้วครับ”
กวาง : “ก็รอนานค่ะ (ยิ้ม) วันนี้มาถึงแล้วก็ยินดี ดีใจที่ยังได้อยู่ข้างๆเขา”
พิธีการเมื่อเช้าเป็นอย่างไรบ้าง?
โก๊ะตี๋ : “เป็นพิธีการเกี่ยวกับทางจีน พิธียกน้ำชา แล้วก็มีพิธีรดน้ำสังข์ ตักบาตร มีแห่ขันหมาก มีเพื่อนทั้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว มีครอบครัว ผู้ใหญ่ ถามว่ามีโมเมนต์เสียน้ำตาไหม มีตอนที่ ’อาต๋อย ไตรภพ‘ อวยพร แล้วก็แม่แตง ที่เราเคารพเขาสองคนเหมือนพ่อแม่ เขาเป็นเหมือนคู่พิธีปูเตียงให้บ่าวสาวครองเรือน แสดงคู่มงคล ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ซึ่งเราก็ต้องขอขอบคุณอาแตงและอาต๋อย ซึ่งแม่แตงต้องเดินทางไปต่างประเทศแต่เขาก็เลือกมางานเรา เพราะรักเรา แล้วก็ได้บอกเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้เราก็อยากเป็นแบบนั้น”
กวาง : “ต้องขอบคุณทั้งอาต๋อยและอาแตงนะคะ ที่มาเป็นเกียรติให้เราสองคน สำหรับกวาง เป็นโมเมนต์ดีๆ ที่เราคงประทับใจไม่รู้ลืม เพราะชีวิตหนึ่งคงมีแค่ครั้งนึงที่ผู้หญิงอยากจะแต่งงาน (ยิ้ม)”
มีคำมั่นสัญญาหรือมีอะไรที่ได้บอกกันไหม?
โก๊ะตี๋ : “คำมั่นสัญญาผมเองก็ไม่ได้มีมาเป็น 10 ปีแล้วนะ รู้จักกับเขาก็ไม่มีคำมั่นสัญญา เพราะว่า เราจะถือว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ จะไม่สัญญาเพราะจะทำให้คนรอสัญญารออยู่นั่น ส่วนคนที่ต้องรักษาสัญญาก็จะเหนื่อยว่าจะต้องทำยังไง ผมว่าเราจะจับมือกันเคียงข้างกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 10 ปีนะที่เราคบกันมา มันผ่านห้วงเวลาผ่านทั้งทุกข์ ทั้งสุข ทั้งครอบครัวเขาและและครอบครัวเรา ลิ้นกับฟันมันมีกระทบกันอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วเราก็ฝ่าฟันและจับมือกันจนมาถึงทุกวันนี้ มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์แหละว่า เราไม่ได้สัญญาแต่ก็บอกว่าชีวิต เราทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อคนรอบตัวมาตลอดทั้งชีวิต มันก็ถึงเวลาที่เราเองก็จะต้องใช้ชีวิตคู่ ใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง ทุกคนเข้าใจ”
รู้สึกว่าเขาพิสูจน์การกระทำมากกว่าคำสัญญายังไงบ้าง?
กวาง : “เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ เขาดูแลที่บ้านหลายส่วน ณ วันนี้ 10 ปีแล้ว จากวันแรกๆ ที่กวางเองก็ไม่เข้าใจเลย จนวันนี้ทุกอย่างมันคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ เขาก็ให้พื้นที่ในส่วนของกวางว่านี่คือส่วนที่บ้านและนี่คือส่วนของกวาง สำหรับกวางเท่านี้แฮปปี้ค่ะ มันสำคัญที่คนข้างข้างเราค่ะ (ยิ้ม)”
เคล็ดลับที่ทำให้รักกันมาได้ 10 ปี หลังจากนี้เป็นคู่ชีวิตแล้ว?
โก๊ะตี๋ : “มันก็มีหลายครั้งที่กระทบกระทั่งกัน มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาที่จะทำให้คนสองคนไม่ได้เดินไปในทางเดียวกัน แต่เรา จำคำพูดอาต๋อยไว้ตลอดตั้งแต่แรกๆ จนทุกวันนี้ ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่สนิทกับกวางก็ไม่ได้สนิทกับครอบครัวเขา วันแรกที่ได้ไปคุยกับคุณอาของเขาที่ดูแลกวางตั้งแต่คุณพ่อกวางเสีย คือกวางเป็นลูกคนสุดท้อง เขาเองก็จะถูกสปอยล์จากพี่ชาย เราเองก็ดูแลครอบครัวมาทั้งชีวิต ก็เลยจะมีอะไรที่สวนทางกันนิดๆ แต่อย่างหนึ่งเลยที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีหลายเรื่องที่ทำให้เราอาจจะคิดวอกแวกไป อยากจะจบ แต่สุดท้ายแล้วความรักที่ผมไม่ได้รักแค่ตัวกวาง กลายเป็นว่าเรารักครอบครัวเขาไปแล้ว ก็ทำให้เราคิดว่าถ้าเราเลิกกันไม่ได้เลิกกันแค่กับกวาง เราต้องเลิกกับคนในครอบครัวเขาด้วย แล้วอีกอย่างสายสัมพันธ์ที่เรารู้จักกันมา 10 ปี ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกัน เขาจะเสียใจไหมถ้าเราตัดสินใจแบบนั้น บางทีปัญหามันแค่นิดเดียวแต่เราทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เลยเป็นวิธีที่ยึดถือมาว่าไม่ใช่แค่แต่งงานกับกวางแต่แต่งงานกับครอบครัวเขาด้วย”
ดีใจไหมได้เป็นความสุขให้เขา?
กวาง : “ดีใจค่ะ กวางก็อยากให้เขายิ้มอยู่แล้ว กวางรู้ว่าเป็นห่วงเขามากแต่ช่วงโควิดที่เขาป่วย ตอนนั้นโรงพยาบาลแน่นมาก กวางรู้เลยว่าทิ้งคนนี้ไม่ได้ กวางนั่งเฝ้าเขาแต่ผลตรวจยังไม่ออก ก็ดูแลเขา ตอนนั้นกวางก็ไม่ได้กลัวว่าเราจะเป็นอะไรด้วย แต่กวางก็ไม่ได้ติดค่ะ จะโทรหาใครเขาก็ไม่ให้โทรกลัวว่าจะไปรบกวน”
โก๊ะตี๋ : “ ถ้าย้อนกลับไป ตอนนั้นโควิดร้ายแรงมาก มีโอกาสตายได้ พอผ่านช่วงนั้นมาก็เลยรู้สึกว่า มันหนักพอสมควรเลยในตอนนั้น เรารู้ว่ากวางก็ห่วงเราอย่างที่บอกว่าคู่เราไม่ต้องพูดกัน แต่การกระทำสำคัญกว่าคำพูด และตอนนั้นเราก็ไม่ได้บอกครอบครัวด้วย ตอนนั้นรู้สึกว่าถ้าจะไปก็ขอไปแบบเงียบๆ ให้ที่บ้านรู้ทีเดียว ตอนนั้นก็ขับรถไปโรงพยาบาลคนเดียว ไปรักษาตัวเอง”
โก๊ะตี๋ : ” อย่างหนึ่งที่ไม่อยากพูดคือเรื่องมีลูก ตัวผมมีลูกยาก แต่ถ้าอนาคตถ้าลูกจะมาก็เป็นเรื่องราวที่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่เราก็ได้บอกทุกคนและทั้งสองครอบครัว ถ้ามีลูกได้มีไปตั้งแต่อายุ 20 แล้ว เพราะเราเองเป็นคนอยากมีครอบครัว เพราะเราเป็นเด็กที่ครอบครัวร้าวฉาน เกิดมาในพื้นฐานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เราเองก็ไม่โทษพ่อแม่ แต่เป็นเหมือนตัวอย่างว่าถ้าเรามีครอบครัว เราจะมีลูกที่ดี เราจะรักเมีย ตอนเด็กเห็นแต่ครอบครัวข้างบ้านมีความสุข แต่บ้านเราทะเลาะกันแทบทุกวัน ที่ผมไม่กินเหล้าเพราะอคติกับคนกินเหล้า ถามว่ากินได้ไหมโตแล้วก็กินได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่กิน ก็เลยไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องลูก มันเป็นเหมือนแผลเป็นในใจผม คือถ้าคนที่ไม่รู้ก็พูดได้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร มันเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่ทำไม่ได้ คือเราทำได้ทุกอย่าง หามาได้ทุกอย่างยกเว้นดาวกับเดือนให้ครอบครัวและเมีย แล้วเราเองก็อยากมีลูก แต่อนาคตเราก็ไม่รู้ว่าอาจจะมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ แล้วกวางเองก็ยังไม่แก่ (หัวเราะ) ที่เราไม่ได้อยากให้พูดเรื่องนี้กับผมเพราะมันก็เป็นเหมือนปมด้อยหนึ่งในชีวิตที่หาให้ไม่ได้ เราก็คุยกันว่าถ้ามีลูกไม่ได้ก็อยู่กันสองคนตายาย อยากไปไหนก็ไปด้วยกัน”
จะไปไหนเล็งไว้หรือยัง?
โก๊ะตี๋ : “ฮันนีมูนยังไม่ได้เล็งเลย แต่ทุกๆ ปีก่อนจะมีโควิด วันเกิดก็จะไปญี่ปุ่นกันทุกปี พอฮันนีมูนก็อยากจะไปญี่ปุ่นเป็นที่แรก”
อยากบอกอะไร “โก๊ะตี๋” ไหม
กวาง : “หนูรักเขา (ยิ้ม) คนเราอยู่ด้วยกัน ยังไงก็ต้องรักกัน ถ้าเกิดสมมติวันหนึ่งไม่รักแล้ว ไม่ว่าจะยังไงมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถามว่ารักอะไรในตัวเขา อย่างหนึ่งคือกวางว่าเขาเหมือนคุณพ่อกวาง เขาเป็นคนขยัน ไม่อายทำกิน (อยากขออะไรเขาไหม?) ถ้าหนูอยากไปเที่ยวก็ไปกับหนูนะคะ (หัวเราะ) เพราะเขาจะไม่ค่อยว่างไง”
โก๊ะตี๋ : “ก็อยากขอบคุณที่อดทนในบางเวลา ที่มันจะต้องการความอดทน บางคนจะบอกว่าใช่สิ มึงมีตังค์เขาก็เลยเอามึง แต่จะบอกเลยว่าบ้านกวางรวยกว่านะ ที่สำคัญคืออย่างหนึ่งที่รู้สึกว่ารักผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาไม่ได้คิดว่าเราเป็น ‘โก๊ะตี๋ อารามบอย’ ช่วงแรกๆ ที่เราเจอกัน ผมชีวิตติดลบ เป็นหนี้เป็น 10 ล้าน”
กวาง : “เจอกันวันแรกชวนกินติ่มซำ สั่งเต็มเลย พอกินหมดแล้วบอกว่าเก็บตังค์กับน้องเขานะ เราแบบเฮ้ย…เดี๋ยวนะ ฉันเพิ่งมาเจอเธอ เธอให้เขาเก็บตังค์ฉัน (หัวเราะ)”
โก๊ะตี๋ : “ณ ตอนนั้นพูดเลย เป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้เยอะมาก แต่ก็ครั้งนั้นครั้งเดียวที่เขาเลี้ยง แต่หลังจากนั้นเขาชวน เราก็จะแบบไม่ว่างๆ ไม่ว่างเลย ติดงาน จนหลังๆ เขาก็เริ่มงอน ผู้หญิงอะ ชวนไปดูหนังก็ไม่ไป ชวนกินข้าวก็ไม่ไป มึงเป็นอะไรของมึง เราก็บอกว่าเอาจริงๆ นะ ผมไม่มีตังค์ครับ ผมไม่มีตังค์กวาง เชื่อว่าเขาก็ไม่เชื่อหรอกตอนนั้น แต่ก็บอกว่าพูดความจริง ผมไม่มีตังค์เลยตอนนี้ ผมพยายามขายโน่นนี่ เพื่อปลดหนี้ก้อนนี้ ถ้าคุณโอเคที่จะรอ ก็โอเค แต่ถ้าคุณไม่โอเค เดินจากไปได้เลย คือพูดกับเขาเสมอนะ อะไรก็แล้วแต่ อย่าทำให้รู้สึกว่าเป็นคนโง่ วันใดถ้าคุณหมดรักผู้ชายคนนี้แล้ว รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีคุณค่ากับตัวคุณแล้ว เดินมาบอกกันตรงๆ แล้วเดินจากไป จะไม่ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สุดท้ายแล้วเขาก็รู้ว่าเราไม่มีจริงๆ ช่วงนั้น แต่ว่าก็ฝ่าฟันมาเป็น 10 ปีแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างมันกลับมาหมดแล้ว ก็คือได้ใจเขาด้วย ว่าเขาคงรักเราจริงๆ แหละ ถ้าผู้หญิงที่ต้องการเงิน ต้องการผู้ชายนิสัยรวยหน่อย เขาก็คงไม่อยู่แล้ว เพราะตอนนั้นเราไม่มี ผมบอกเลยว่าผมไม่มีตังค์ไปสปอยล์คุณ ก็นั้นแหละ จากเหตุการณ์ติ่มซำที่เก็บตังค์มาถึงวันนี้ (หัวเราะ)”
วันนี้ “กวาง” สวยเป็นพิเศษเลยไหม?
โก๊ะตี๋ : เขาสวยทุกวันอยู่แล้ว เราไม่ค่อยชอบให้เขาแต่งหน้าคือผู้หญิงจะชอบแต่งหน้าเวลาไปเจอใคร จะมีปัญหาทุกครั้งเวลาไปไหนมาไหนสตาร์ทรถปุ๊บแต่งหน้าเลย ถ้าอยากจะแต่งแต่งเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ขึ้นมามัวเมาท์มอย พอถึงที่บอกแต่งหน้าก่อน อะไรอ่ะ เข้าใจใช่ไหม (ยิ้ม)”
คือชอบแหละที่เขาสวย?
โก๊ะตี๋ : “แหม…เมียสวยมีใครไม่ชอบบ้าง ก็ชอบทุกคนแหละ แต่แค่เราเป็นผู้ชายสมัยโบราณอ่ะ ไม่ชอบให้เขาแต่งตัวโป๊ ชุดนี้ก็เยอะไป มีปัญหามากกับการไปลองชุดเจ้าสาว แล้วไปลองชุดร้านเอาแต่ละตัวมาให้กวางนะ ไปลองชุดก็โทรตามให้ไป ไปชี้ว่าอันไหนเอาอันไหนไม่เอา เช่น ชุดเมื่อเช้าของคอมเพลน โอ้โห หนูใช้ชีวิตลำบากมาก มันมีหางปลาไง โอเคที่ผู้หญิงต้องสวยเดินออกมาสง่ามีหางพริ้วๆ แต่หนูเดินออกมาแล้วเหยียบไง ตอนยกน้ำชาพอเขานั่ง แล้วเขยิบมาหางปลาก็ไม่ตามมา เสื้อข้างบนก็ล่นลงๆๆ สักพักก็ต้องดึงขึ้นมาก่อนๆ แล้วบอกเข่ตั้งแต่วันลองชุดแล้วว่าไม่เอา ถ้าจะใส่ชุดยาวๆ ใส่ตอนค่ำๆ ไปเลย”
หลักๆ คือหวง?
โก๊ะตี๋ : “ก็หวงแหละ เมียเราอ่ะ ไม่หวงเมียจะหวงใคร นี่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำแล้วว่ามีเมีย เมื่อก่อนเวลามีใครมาเม้นต์ในคลิปเราก็จะบอกว่าให้เกียรติผู้หญิงหน่อย เขายังไม่ได้แต่งงานควรเป็นแฟนกันถูกไหม แต่ทุกวันนี้ อันนี้เมียผม (ยิ้ม)”
จดทะเบียนสมรสเลยไหม?
กวาง : “ยังค่ะ”
โก๊ะตี๋ : “เดี๋ยวต้องไปดูอีกรอบนึง หนูว่าการจดทะเลียนไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย เพราะว่า 10 ปีที่เราใช้ชีวิตคู่กันมา ทำสวน ทำอะไรมาด้วยกัน เราสร้างมาด้วยกันทุกอย่างอยู่แล้ว”
[ad_2]
Source link