[ad_1]
หมอโอ๊ค-โอปอล์ คู่รักชื่อดัง กุมขมับ ช็อตฟีลมาก ลูกฝาแฝด ไม่เชื่อ! พ่อแม่ทำงานในวงการบันเทิง
เป็นอีกคู่รักคนบันเทิงที่หลายคนต่างชื่นชอบ และยกให้เป็นครอบครัวในดวงใจเลย สำหรับครอบครัวของ หมอโอ๊ค-สมิทธิ์ อารยะสกุล กับพิธีกรสาว โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล ที่ตอนนี้หลาย ๆ คนก็ต่างติดตามชีวิตรวมถึงลูกฝาแฝด น้องอลิน-น้องอลัน ก็กำลังอยู่ในวัยที่น่ารักมากจริง ๆ
หมอโอ๊ค-โอปอล์ กุมขมับ ช็อตฟีลมาก ลูกฝาแฝด ไม่เชื่อ! พ่อแม่ทำงานในวงการบันเทิง
ล่าสุด (15 ก.พ.) หมอโอ๊ค-โอปอล์ ควงแขนกันมาอัปเดตความน่ารักของลูก ๆ ในงานเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ฉลองครบปีที่ 9 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงคอก
โอปอล์ : คือแม้พี่โอ๊คจะทำงานเยอะแค่ไหน ทั้งงานคลินิกและโรงพยาบาล แต่เวลาลูกมีงานโงเรียน เขายังไปได้ หรือยังสอนการบ้านลูกได้ อย่างเลข ป.2 คือยากเสมอสำหรับมุมมองปอ ซึ่งต้องให้พี่โอ๊คเป็นคนสอน เราก็จะเว้นวิชานี้ไว้
และคือที่โรงเรียนอลันตอนนี้ เริ่มจะสอนตีกลอง เล่นกีต้าร์ ครูคงเห็นว่าแม่อยู่วงการบันเทิง ครูบอกปอว่า กลับไปบ้านสอนน้องตีกลองด้วยนะ และกีต้าร์คุณแม่เล่นได้ และก็ให้ลูกเล่นตาม ก็เลยแจ้งครูไปว่าแม่ไม่ใช่โรส ศิรินทิพย์ แม่ไม่มีสกิลนี้เลย เป็นครั้งแรกที่เราจะร้องไห้เลย ถือกีต้าร์ต่อหน้าลูก แล้วยังไงต่อดีนะ สิ่งที่เกิดขึ้นคือลูกดีดกีต้าร์ ปอก็ให้จังหวะ สรุปลูกหัวเราะ แต่สิ่งที่ทำได้ในเรื่องการเรียนลูกคือตอนอ่านหนังสือ แม่ต้องอยู่ด้วย อังกฤษหรือไทย แม่สอนได้
หมอโอ๊ค : คือปอเขาดูเรื่องอาหาร หรือการอ่านหนังสือ เพราะตอนนี้เขาเริ่มอ่านที่เป็นเล่ม ๆ ได้แล้ว
โอปอล์ : อย่างล่าสุดปอกำลังดูพี่จองกับคัลแลนอยู่ เพราะเมื่อคืนอลินเขาอ่าน Reading book มันเล่มหนา เขาอ่าน ๆ อยู่และเอาลง และพูดว่าคุณแม่เบาเสียงพี่จองลงหน่อยค่ะ แม่ก็ต้องลดเสียงทันที เรื่องดนตรี อลันชอบกีต้าร์กับกลอง เขาเริ่มโต เขารู้สึกว่ามันเท่ และพอเขาไปเรียน ปอต้องไม่รับงานอะไร เพื่อไปยืนหน้าห้องซ้อม
ไปให้จังหวะ?
ไม่ใช่ ไปให้กำลังใจ รวมไปถึงเตะบอลด้วย
ลูกไม่เชื่อว่าพ่อเป็นนักร้อง?
หมอโอ๊ค : คือลูกเป็นคนเดียว ที่ไม่ให้เครดิตกับเสียงร้องของพ่อเลย เราก็บอกว่านี่พ่อเคยเป็นนักร้องนะ เขาหัวเราะกลับมา และก็ทำหน้าปลอบเราด้วย เหมือนว่าเราพูดเรื่องไม่จริง ถึงขั้นเปิดเอ็มวีให้ดูเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง ก็บอกว่าเห็นไหม พ่อนั่งร้องเพลงอยู่ เขาก็ขำหนึ่งทีแล้วก็พูดว่าคนนี้หน้าเหมือนพ่อเลย เขาไม่เชื่อ นี่ก็บอกไปว่านั่นคือพ่อไง
โอปอล์ : เขาไม่เชื่อ เพราะในพาร์ตที่เขาเห็นพ่อกับแม่คือ พ่อเป็นหมอ แม่เป็นแม่บ้าน เขาไม่เคยเห็นแม่ทำงานในวงการเลย แม่บ้านเต็มตัว อาชีพที่ลูกเข้าใจว่าเป็นยูทูบเบอร์เพราะดูรายการจากนางแมวป่า เขาไม่รู้กำพืดแม่
แล้วเราเอาผลงานของเราลูกดูไหม?
ไม่ค่ะ (หัวเราะ) เขาไม่ดู เขาเปลี่ยนหนี ปอชี้ให้ดูในเรื่องแจ๋ว ว่านี่แม่กับป้าปุ๊กกี้ตอนสาว เขาหัวเราะ และก็ไม่มีท่าทีที่จะสนใจเลย เราพยายามแล้ว หรือหนังสือที่เราลงปกเยอะ ๆ บอกไปเลยว่านี่แม่ นี่แม่ เขาพยักหน้าเบา ๆ มันว่างเปล่ามาก อลันยังไม่มีโหมดลูกชายปลอบแม่ แต่อลินจะมีโหมดแบบอืม… แค่นั้นจริง ๆ เจ็บที่ไม่พูดด้วย
ภูมิใจลูกได้รางวัล
หมอโอ๊ค : โรงเรียนของอลันเขาจะมีแต่ละช่วงสัปดาห์เขาจะมีหัวข้อเรื่อง และหัวข้อนี้ อลันตั้งใจมากเกี่ยวกับสมอง การเรียนรู้ มันเป็นกิจกรรมที่สนุก ให้เด็กออกมาพรีเซนต์เกี่ยวกับระบบของสมอง และมีคนเดียวที่ได้รางวัลคืออลัน เพราะเขาเป็นคนที่ชอบแก้ไขปัญหา
โอปอล์ : คือสถานการณ์ที่บ้าน เวลาพี่โอ๊คไม่อยู่ และคนที่จะมาไกล่เกลี่ย เป็นคนกลางระหว่างปอกับอลิน ว่าเดี๋ยวแม่ดูนี่ อลินดูนั่น เขาเป็นนักจัดการ แต่เราก็ระวัง ไม่ค่อยลงเรื่องลูกเยอะ อย่างยิ่งลูกได้รางวัล เราค่อนข้างส่วนตัวในเรื่องลูก แต่ครั้งนี้เราภูมิใจมาก เพราะว่าลูกแก้ปัญหาได้ แม่ยังแก้ปัญหาไม่ได้เลย เราเรียกหาพี่โอ๊คตลอด
วิธีเลี้ยงลูก?
หมอโอ๊ค : วิธีการเลี้ยงของเราคือเราให้อิสระในการใช้ชีวิตและความคิดต่างๆ ด้วยตัวเขาเอง
โอปอล์ : เราเคารพลูกตั้งแต่เขาเริ่มพูดได้ตั้งแต่ 4-5 ขวบ ไม่เคยบังคับว่าจะต้องแต่งตัวยังไง ไม่ได้บอกว่าอันนั้นดี อันนี้ไม่ดี แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือ เราเลี้ยงเขามา เรารู้ว่าเขาเป็นคนที่อุปนิสัยอย่างไร เราแค่พยายามไม่ให้เขาไปในทางที่ผิด ผิดศีลธรรมใด เรื่องยาเสพติด การพนัน การทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายคนอื่น นอกนั้นอยากทำอะไรก็ทำ มันคือเบสิกทั่วไป เขามีเหตุผลของเขา ปอว่าการมีลูกแฝดไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเหมือนกัน
หมอโอ๊ค : ไม่จำเป็นเลย แม้จะเกิดมาด้วยกัน อยู่ในท้องด้วยกัน แต่กินข้าวก็แตกต่างกัน อลินอลันก็ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันเวลาที่อยู่โรงเรียน ไปส่งเข้าโรงเรียน แล้วแยกไปคนละทาง อาจจะคนละเพศด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่
SHARE
FOLLOW US
[ad_2]
Source link