คนบันเทิงทำเพียบ!? อาจารย์แมน ลงนะดากทอง อ้างทำตามลูกค้าขอ มั่นใจไม่มีอะไรเสียหาย | The Bangkok Insight

12 Jan 2024

854

[ad_1]

อาจารย์แมน ลงนะดากทอง อ้างทำตามลูกค้าขอ มั่นใจไม่มีอะไรเสียหาย โวนักการเมือง-คนบันเทิง มาทำเพียบ

จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return part 6 โพสต์ภาพการทำพิธีใช้แผ่นทองติดที่ก้น แล้วคนที่ทำพิธี ต้องนอนโก้งโค้ง โดยมีชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็น “อาจารย์” ทำพิธีโดยการนวดคลึงแผ่นทองที่ก้น จากนั้นอาจารย์ก็ก้มหน้าลงเป่าและเลียรูทวารของผู้มาทำพิธี 9 ครั้ง โดยอ้างว่านี่คือการทำพิธี “ลงนะดากทอง”

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

อาจารย์แมน ลงนะดากทอง

ล่าสุด รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า บุคคลที่ทำพิธีนี้ มีชื่อว่า “อาจารย์แมน” เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ และทำพิธีแบบนี้มาประมาณ 15 ปี

อาจารย์แมน เปิดใจถึงการทำพิธีลงนะดากทองหรือจุดสงวน ว่า การลงนะในที่ลับของตนเอง ไม่ใช่คอนเทนต์ แต่ทำตามลูกค้าขอ ซึ่งคนดังคนในวงการบันเทิงมาทำด้วย แต่ไม่ได้ทำให้ทุกคน ต้องดูความเหมาะสมด้วย ซึ่งปกติแล้วที่สำนักของตน ก็รับลงนะตามปกติ ทั้งหน้า แขน คอ มือ แล้วแต่ลูกค้าจะขอให้ลงตรงไหน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ก็มีลูกค้าบางคน ตั้งใจมาหาอาจารย์และระบุว่า ต้องการทำนะตรงบริเวณที่ก้นหรือที่อวัยวะเพศโดยเฉพาะ

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างเช่น มีคนที่เป็น LGBTQ มีสามี และเขาสงสัยว่าสามีคบกับคนอื่นด้วย ตัวเขามีความกังวลว่าสามีจะปันใจให้กับคนอื่น จึงมาทำพิธีเพื่อทำให้มีพลัง และเลือกที่จะลงนะบริเวณก้นและรูทวาร เพราะเป็นจุดที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามี ตนก็จะทำให้ แต่ยืนยันว่า ไม่มีการล่วงละเมิด หรือ กระทำการไม่เหมาะสมแต่อย่างใด รวมทั้งเป็นความยินยอม เป็นความต้องการของผู้ที่มาทำพิธี

อาจารย์แมน ลงนะดากทอง

อาจารย์แมน เปิดเผยอีกว่า ตนจะใช้มนต์ มหาวน มหาเวียน ก็จะให้คนวนเวียน ได้สัมผัส พิศวาส ตรงตามคาถาของมัน ซึ่งได้ผลมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การทำพิธีแต่ละจุด ก็จะใช้คาถาต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ลูกค้าอยากจะให้ทำจุดไหนอาจารย์ก็สามารถทำได้หมด

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากนั้นอาจารย์แมน ก็สาธิตวิธีการเขียนคาถาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยใช้ตุ๊กตาปั้นลักษณะคล้ายอวัยวะเพศ ทาด้วยสีผึ้งและวาดลงที่มือผู้สื่อข่าว ให้ดูว่าวิธีเขียนคาถานั้นทำอย่างไร พร้อมกับท่องคาถาว่า โอมวนมาหาเวียนมาหา โอมเวียนมหาวน วนซ้ายมาหา วนขวามาหา ซึ่งคาถานี้เป็นคาถาที่สวดเพื่อให้คนที่เรารัก คนที่เราต้องการ อยู่กับเราไม่ไปไหน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึง กรณีอีกคลิปหนึ่งที่เป็นลักษณะอมอวัยวะเพศของลูกศิษย์ที่มาทำพิธี อาจารย์แมน ชี้แจง ว่าการทำพิธีนั้น ไม่ได้เป็นการหมิ่นเหม่ทางเพศหรือมีเพศสัมพันธ์กัน โดยอาจารย์แมนยอมรับว่า ตนเองก็เป็น LGBTQ แต่เวลาทำพิธี ไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศใด ๆ

ส่วนคลิปทำพิธีอมอวัยะเพศนั้น เป็นคนในวงการบันเทิงคนหนึ่ง ที่ต้องการจะไปหาแม่ยกจึงมาหาอาจารย์ก่อน (คล้าย ๆ กับทำเสน่ห์) โดยทำพิธีสวดคาถา แล้วก็อมอวัยวะเพศ 9 ครั้ง เพื่อให้คาถาเข้าสู่ร่างกายและประสบความสำเร็จสมปรารถนาและเมื่อเสร็จพิธี ลูกศิษย์คนนี้ก็ไปสมปรารถนาตามที่ขอไว้จริง

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การทำพิธีแบบนี้ค่อนข้างหมิ่นเหม่ทั้งเรื่องเพศ รวมไปถึงสุขอนามัย แต่อาจารย์แมนระบุว่า คนที่จะเข้ามาทำพิธีและจะให้ลงคาถาในที่ลับ จะต้องทำความสะอาดมาก่อน ส่วนเรื่องการร่วมเพศนั้นไม่มีแน่นอน เพราะไม่ได้มีอารมณ์หรือความรู้สึกทางเพศกับใครง่าย ๆ และการที่จะลงคาถาหรือลงนะ ที่อวัยวะเพศหรือของลับ จะต้องเป็นความต้องการของลูกศิษย์เท่านั้น และทำได้แค่บางคนเท่านั้น บางคนก็ทำไม่ได้ รวมทั้งในระหว่างทำพิธี ก็มีทีมงานอยู่ด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสอง นอกจากนี้ ไม่ได้ทำพิธีให้แค่ผู้ชาย แต่มีผู้หญิงมาขอทำพิธีเช่นกัน แต่สำหรับผู้หญิง อาจารย์จะให้แผ่นทองเอาไปปิดอวัยวะเพศเอง

นอกจากนี้ ยังมีการทำพิธีนวดคลึงอวัยวะเพศของลูกศิษย์ชาย โดยลูกศิษย์คนนี้ นำเงินใส่พานแล้วพนมมือนอนลงกับพื้น แล้วบอกให้อาจารย์ทำพิธีที่อวัยวะเพศ อาจารย์แมนก็ใช้วิธีการนวดคลึงอวัยวะเพศของลูกศิษย์คนนี้ พร้อมกับสวดคาถาไปด้วย

สำหรับศาสตร์ที่ใช้ในการทำพิธี อาจารย์แมนบอกว่า เป็นศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้ทันสมัย แต่ใช้คาถาโบราณมาจัดบทใหม่ บทไหนที่ดีเป็นมงคล ก็จะคัดเฉพาะบางช่วงนำมาใช้ให้เหมาะกับลูกศิษย์แต่ละคน เช่น บางคนต้องการเรื่องค้าขาย บางคนต้องการเรื่องความรัก บางคนต้องการเรื่องเสน่ห์คนรักคนหลง

ซึ่งก็มีกลุ่มดาราศิลปิน รวมถึงกลุ่มนักการเมือง มาทำพิธีด้วยเหมือนกัน เพราะนักการเมือง ทำงานอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้เรื่องนี้เข้าช่วย เช่น การขอตำแหน่งหรือขอเงิน ของาน มีหน้ามีตาในสังคม และมีอำนาจ ก็จะทำพิธีให้นักการเมืองพวกนี้ และสำเร็จมาแล้วหลายคน แต่อาจารย์แมนไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ

ส่วนกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมนั้น ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน คนที่ไม่ศรัทธาก็จะเห็นต่าง จะด่าว่าโง่ อุปโหลก งมงาย สนองตัณหา ก็แล้วแต่บุคคล